รู้จักกับเรือนเวลาที่ถ่ายทอดไอเดียความคิดสร้างสรรค์ในเชิงเย้ายวนทางเพศ
ความลับที่ถูกเปิดเผย เมื่อเสน่ห์ทางเพศถูกนำมาเป็นแรงบันดาลใจในศาสตร์ของการผลิตเครื่องบอกเวลาชั้นสูง เริ่มจากนาฬิกา Richard Mille Erotic Tourbillon RM 69 หรือที่รู้จักกันในนาม ‘นาฬิกาเซ็กซ์ RM’ ซึ่ง Drake นักร้องคนดังสวมไปชมการแข่งขัน NBA Playoffs ในปี 2019
หน้าปัดมีหน้าตาละม้ายป้ายบอกชื่อภาพยนตร์ หน้าโรง ซึ่งเจ้าของมักจะระบุข้อความอีโรติกไว้ให้แอบป้องปาก และเรือนของ Drake มีข้อความว่า "I'd love to kiss your p***y"
ดารานักแสดงหลายคน ต่างชื่นชอบนาฬิกาเทรนด์นี้ อาทิ แร็ปเปอร์ชื่อดัง Travis Scott เลือกใส่นาฬิกาสุดเร้าใจแบบเดียวกันในงานอีเวนท์ โดยเผยให้เห็นว่าเขาเป็นหนึ่งใน 30 เจ้าของนาฬิกาลิมิเต็ดเอดิชั่นรุ่น RM 69 ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในปี 2015 ที่มีแรงบันดาลใจจากการแสดงออกถึงความรุ่มร้อนภายใน นับเป็นการกล่าวถึงนาฬิกาอีโรติกแห่งศตวรรษที่ 16 อย่างชื่นชมและเปิดเผย ทั้งที่ก่อนหน้านั้นเคยถูกสั่งห้ามผลิต เนื่องจากเปิดเผยเรื่องทางเพศมากเกินไป
ทั้งที่จริงแล้ว นาฬิกาที่มีเนื้อหาทางเพศอย่างโจ๋งครึ่ม ไม่ใช่แนวคิดสมัยใหม่ มีมาตั้งแต่รัชสมัยของพระเจ้าหลุยส์ที่ 15 ในช่วงทศวรรษที่ 17 มีการสลักภาพต้องห้ามไว้บนฝาหลังของนาฬิกาพก ที่สร้างขึ้นสำหรับคนชนชั้นสูงในสมัยนั้น อย่างไรก็ตาม เมื่อความนิยมเพิ่มมากขึ้น กลับถูกวิพากวิจารณ์โดยนักบวชคริสเตียนออร์โธดอกซ์ ที่ออกคำสั่งห้ามผลิตนาฬิกาเหล่านี้ เนื่องจากดูอนาจารเกินไป
นาฬิกาอีโรติกถูกหลงลืมไปในศตวรรษที่ 20 แต่ช่างนาฬิกาจาก Ulysse Nardin กลับนำเสน่ห์ลี้ลับนี้มาอยู่บนหน้าปัดอีกครั้ง เพื่อเบนความสนใจจากนาฬิกาควอตซ์ในช่วงปี 1970 ซึ่งเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อในประวัติศาสตร์ของอุตสาหกรรมนาฬิกา ความต้องการนาฬิกาจักรกล ซึ่งแต่เดิมผลิตโดยช่างผลิตนาฬิกาชาวสวิส ความนิยมลดลงอย่างรวดเร็ว หลังจากที่ระบบควอตซ์กลายเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับการผลิตนาฬิกา
การนำเสนอภาพเรทเอ็กซ์ของนาฬิกา Ulysse Nardin Classico กลับเป็นหนึ่งในนาฬิกาที่ได้รับความนิยมในช่วงเวลาดังกล่าว ด้วยตัวเรือนโรสโกลด์ 18K ฝาหลังพิมพ์ลายนูน หลังจากประสบความสำเร็จ ทาง Ulysse Nardin ก็ได้เปิดตัวนาฬิกาอีโรติกอีกหลายรุ่น รวมถึง Classic Voyeur และ Classico Manara ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากภาพวาดสีน้ำมันของ Milo Manara ศิลปินภาพอีโรติกชาวอิตาลี