Cover ภูมิทัศน์ของโรงแรมและรีสอร์ท โระกุ เกียวโต (Roku Kyoto) สร้างสรรค์โดย บลิงค์ ดีไซน์ กรุ๊ป (Blink Design Group) / ภาพโดย เบ็น ริชาร์ด (Ben Richards)

เราขอนำเสนอสถานที่น่าทึ่งที่ควรเยี่ยมชม ตั้งแต่โรงแรมที่ออกแบบโดย เคนโกะ คุมะ (Kengo Kuma) ซึ่งตั้งอยู่ใกล้แนวเขา จนถึงสถานที่อื่นๆ ที่ได้รับการออกแบบอย่างโดดเด่น

เกียวโตให้ประสบการณ์ช่วยสร้างแรงบันดาลใจที่หลากหลายได้ เป็นที่ซึ่งมีทั้งสิ่งเก่าและใหม่ ทั้งวัฒนธรรมและธรรมชาติ เกียวโตมีพื้นที่มรดกโลกที่ยูเนสโกรับรองถึง 17 แห่ง และมีวัด พระราชวัง และสวนจำนวนมาก เกียวโตเป็นเมืองของญี่ปุ่นที่นักท่องเที่ยวมากมายมาเพื่อดื่มด่ำชีวิตแบบช้าลงไม่เร่งรีบ และได้สัมผัสธรรมชาติ วัฒนธรรม และงานฝีมือ

เมืองเก่าแก่ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่นมากว่าพันปีนี้ ยังเป็นที่ให้ผู้คนได้เข้าถึงแหล่งมรดกที่รุ่มรวย พร้อมกับได้ประสบการณ์ใหม่ๆ ทั้งด้านการออกแบบและไลฟ์สไตล์

การมีโรงแรมหลากหลายแบบผุดขึ้นต้อนรับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น หมายความว่าผู้พักจะได้รับการเอาใจในเรื่องที่นอนยามค่ำคืน หรือได้หย่อนใจกับกาแฟที่ชงสดใหม่ยามเช้า  ต่อไปนี้ เราขอเสนอสถานที่พักให้คุณเลือกเพื่อสร้างความทรงจำพิเศษเกี่ยวกับเกียวโต

1. โรงแรม มานะ คิโยมิจึ (Maana Kiyomizu)

Tatler Asia
Above ภาพทิวทัศน์สนามที่อยู่ใกล้เคียง เห็นได้จากหนึ่งในห้องสวีทที่ มานะ คิโยมิจึ (Maana Kiyomizu) บูติกโฮเต็ล (โรงแรมสมัยใหม่ขนาดกลางในเมือง) ที่เกียวโต

โรงแรมมานะ คิโยมิจึ (Maana Kiyomizu) เป็นโครงการที่ 3 ของ มานะโฮมส์ (Maana Homes) ซึ่งได้บูรณะและเปลี่ยนเรือนไม้โบราณ (machiya) ให้กลับมีชีวิตและมีดีไซน์ สำหรับการเช่าพักระยะสั้น  ไอรีน ชาง (Irene Chang) และฮานะ สึคาโมโตะ (Hana Tsukamoto) ก่อตั้งแบรนด์ที่พักขนาดกลางนี้ขึ้นเมื่อปี 2560 เพื่อนำเสนอความงามของมรดกที่อยู่อาศัยรูปแบบนี้ และให้ประสบการณ์การท่องเที่ยวที่ดื่มด่ำมากขึ้น

โรงแรมมานะ คิโยมิจึ นี้ต่างจาก 2 โครงการแรกคือ ตั้งอยู่ที่อำเภอฮิกาชิยามะ (Higashiyama) ใกล้กับสถานที่สำคัญ เช่น พิพิธภัณฑ์แห่งชาติเมืองเกียวโต อำเภอกียอง (Gion) ซึ่งมีเกอิชา  และวัดคิโยมิจึ (Kiyomizu Temple) ที่นี่จึงให้ประสบการณ์ไลฟสไตล์แบบองค์รวม

arrow left arrow left
arrow right arrow right
Photo 1 of 4 ห้องสวีท 3 ใน Maana Kiyomizu เป็นยูนิตแบบ 2 ห้องนอนพร้อมพื้นที่ครัวกว้างขวางพร้อมเกาะ
Photo 2 of 4 วิวการเลือกใช้บนโต๊ะอาหารที่ POJ Studio ใน Maana Kiyomizu
Photo 3 of 4 รูปแบบการออกแบบของ Maana Kiyomizu ได้รับการตัดทอนและเรียบเรียงอย่างจงใจ
Photo 4 of 4 ห้องสวีท 1 มองออกไปเห็นสนามและศาลเจ้าโทโยคุนิในบริเวณใกล้เคียง

นอกจากห้องสวีทขนาดเล็ก 3 ห้องซึ่งเหมาะกับคู่รัก หรือนักท่องเที่ยวคนเดียวแล้ว โรงแรมฯ ยังมีห้องอาหาร คิสสะ คิชิน (Kissa Kishin) ให้บริการอาหารเช้าและกลางวัน  ห้องแสดงสินค้าแห่งแรกของ พีโอเจ สตูดิโอ (POJ Studio) แบรนด์ที่ก่อตั้งโดย สึคาโมโตะ (Tsukamoto) และ ทีนา โคยามะ (Tina Koyama) จำหน่ายสินค้าไลฟ์สไตล์ เครื่องตบแต่งบ้าน ผลงานช่างฝีมือในเกียวโต ลูกค้าสามารถเพลิดเพลินกับบริการปรับแต่งสินค้าที่ซื้อแล้วได้ เช่น ฉากกั้นห้องย้อมคราม หรือโคมไฟกระดาษโชชิน (chochin)

2. โรงแรมเอซึ เกียวโต (Ace Hotel Kyoto)

โรงแรมเอซึ เกียวโต เปิดเมื่อปี 2563 ในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด เป็นจุดหมายปลายทางหนึ่งที่ชาวต่างชาติอยากไปพักเมื่อญี่ปุ่นเปิดรับนักท่องเที่ยวอีกครั้ง  โรงแรมฯ ตั้งอยู่บริเวณที่ทำการเดิมของสำนักงานโทรศัพท์กลางของเกียวโต  ที่ดำเนินการเมื่อกลางคริสต์ทศวรรษ 1920 (พ.ศ. 2463 – 2472)  ด้วยความร่วมมือกันระหว่างสตูดิโอเอซึ (Atelier Ace) บริษัทเคนโกะ คูมะ แอนด์ แอสโซซิเอทส์ (Kengo Kuma and Associates) และ คอมมูน ดีไซน์ (Commune Design) จึงทำให้เกิดพื้นที่พักผ่อนทางสังคมที่งดงามนี้ขึ้น

arrow left arrow left
arrow right arrow right
Photo 1 of 3 ร้าน มิสเตอร์ มอริซ อิตาเลียน (Mr. Maurice’s Italian) ที่โรงแรมเอซึ (Ace Hotel) ในเกียวโต / ภาพโดย โยซิฮิโระ มาคิโนะ (Yoshihiro Makino)
Photo 2 of 3 ห้องระเบียงที่ชั้นดาดฟ้าของร้าน มิสเตอร์ มอริซ อิตาเลียน
Photo 3 of 3 พาสต้าซอสเผ็ดสูตรต้นตำรับอิตาเลียน (Bucatini All'amatriciana) อาหารของร้าน มิสเตอร์ มอริซ อิตาเลียน

แม้คุณจะไม่ได้พักที่โรงแรม เราก็ขอแนะนำอาหารที่ร้าน มิสเตอร์ มอริซ อิตาเลียน (Mr. Maurice’s Italian) หนึ่งในร้านอาหารและเครื่องดื่มของโรงแรม ที่รังสรรค์ขึ้นโดย มาร์ก เวตริ (Marc Vetri) ผู้นับว่าเป็นหนึ่งในเชฟอาหารอิตาเลียนที่เก่งที่สุดในอเมริกา เขายังเปิดร้านอาหารชื่อดัง เวตริ คูซินา (Vetri Cucina) ที่ฟิลาเดลเฟียด้วย อาหารเชิญชิม ได้แก่ บรูเชตต้าซาร์ดีน (sardine bruschetta) กับเนยเปรี้ยวสาหร่าย หรือ พาสต้ายัดไส้ (casoncelli bergamaschi) กับสะระแหน่ทอด และเบคอนสไตล์อิตาเลียน (pancetta in an edgy) การตบแต่งภายในร้านสวยงามทันสมัย

การตบแต่งที่โดดเด่นยังมี โคมไฟทองแดง จากช่างฝีมือในเกียวโต คานามิ ซึจิ (Kanaami Tsuji) ผู้ได้รับแรงบันดาลใจจาก มาติเยอ มาเตโกต์ (Mathieu Mategot) นักออกแบบเฟอร์นิเจอร์ชาวฝรั่งเศสผู้เป็นตำนาน  ยังมีพื้นกระเบื้องขาวดำ และฉากเลื่อนย้อมครามที่ออกแบบโดยศิลปินชาวอเมริกัน โคริ เจอรันด์ (Kori Girand)

3. ร้านสิ่งทอ โฮซู (Hosoo)

Tatler Asia
Above ทางเข้าร้านโฮซู

Hosoo เป็นบริษัทเก่าแก่ที่ก่อตั้งในปี 1688 ในย่านเก่าของ Nishijin ในเมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีชื่อเสียงในด้านการผลิตสิ่งทอจากเส้นด้ายสำเร็จรูปที่เรียกว่าสิ่งทอ Nishijin

ผ้านิชิจินแต่ละชิ้นต้องใช้ช่างฝีมือระดับปรมาจารย์กว่า 20 ขั้นตอนในการผลิต ในปี 1923 รุ่นที่ 9 ได้ขยายไปสู่การดูแลชุดกิโมโนเพื่อเน้นย้ำถึงความงามและเทคนิคดั้งเดิมของงานฝีมือการย้อมและทอผ้า

Tatler Asia
Above (ภาพ: โคทาโร่ ทานากะ)

อาคาร 5 ชั้นของร้านมีพื้นที่ขายปลีก ส่วนนั่งเล่น ห้องแสดงนิทรรศการ ห้องโถงอเนกประสงค์ และห้องรับแขกจัดแสดงชุดกิโมโนเฉพาะสำหรับสมาชิกพิเศษเท่านั้น

ห้องนิทรรศการของร้านจะจัดแสดงเป็นประจำ เกี่ยวกับวิธีการย้อมและทอผ้าในมุมมองทางศิลปะ การออกแบบ งานฝีมือ และวิทยาศาตร์ ตัวอย่างนิทรรศการที่แสดงเมื่อไม่นานนี้ ชื่อว่า สัมผัสของสิ่งทอ ชุดที่ 2: ผืนผ้าผ่านกาลเวลา – ชุดสะสมของไทกะ ทาคาฮาชิ (Texture from Textile Vol. 2: Clothing of Time – Taiga Takahashi Collection) จัดแสดงผ้าราว 2,000 ผืน ตั้งแต่ต้นคริสต์ทศวรรษ 1900 (พ.ศ. 2243 – 2252) สะสมไว้โดยนักออกแบบแฟชั่นรุ่นครู ไทกะ ทาคาฮาชิ ซึ่งได้ศึกษาเทคนิคการตัดเย็บผ้าในยุคสมัยต่างๆ เพื่อการผลิตเสื้อผ้าให้มีอายุใช้งานยาวนาน

4. โรงแรม โระกุ เกียวโต (Roku Kyoto)

Tatler Asia
Above บริเวณรับประทานอาหารให้บริการตลอดวัน ที่ห้องอาหาร เท็นจิน (Tenjin) ในโรงแรมโระกุ เกียวโต (Roku Kyoto) / ภาพโดย เบ็น ริชาร์ด (Ben Richards)

โระกุ เกียวโต เป็นโรงแรมและรีสอร์ทหรูโครงการแรกในเอเซียของเครือ ฮิลตัน (Hilton) ซึ่งมีโรงแรมที่ออกแบบอย่างมีเอกลักษณ์ในสถานที่ต่างๆ ที่น่าสนใจทั่วโลก  โรงแรมโระกุตั้งอยู่เชิงเทือกเขา ทาคากามิเนะ (Takagamine) ริมแม่น้ำเทนจิน (Tenjin River) บลิงค์ ดีไซน์ กรุ๊ป (Blink Design Group) เป็นผู้ออกแบบโดยจำลองแบบตามบ้านพักของช่างฝีมือ ทั้งนี้เพราะโรงแรมตั้งอยู่ในพื้นที่ซึ่งช่างฝีมือชาวญี่ปุ่นสมัยศตวรรษที่ 16 ฮอนอามิ โคเอ็ตจึ (Hon’ami Koetsu) เคยอาศัยอยู่

arrow left arrow left
arrow right arrow right
Photo 1 of 4 การออกแบบจำลองจากที่พักของช่างฝีมือ / ภาพโดย เบ็น ริชาร์ด
Photo 2 of 4 บริเวณห้องนั่งเล่นของห้องสวีทพิเศษ / ภาพโดย เบ็น ริชาร์ด
Photo 3 of 4 ห้องดีลักซ์เตียงแฝดที่โรงแรม Roku Kyoto (ภาพ: Ben Richards)
Photo 4 of 4 ภาพทิวทัศน์ของพื้นที่โดยรวม ซึ่งอยู่เชิงเขา ทาคากามิเนะ (Takagamine) ในเกียวโต / ภาพโดย เบ็น ริชาร์ด

รูปแบบดีไซน์มีลักษณะสำรวม แต่เน้นรายละเอียดและองค์ประกอบของช่างฝีมือ “เส้นขอบเรียบ เพิ่มความสว่างด้วยโทนสีของไม้  มีเสาแนวตั้งหลายต้น และมีทางเดินด้านนอกใต้จั่วหลังคา  มีส่วนเชื่อมต่อเป็นสระน้ำที่สะท้อนเห็นเมฆ กับสวนที่มีต้นไม้ออกดอกตามฤดูกาล เช่น เมเปิ้ล และซากุระ  ทุกส่วนล้วนสำคัญตามแบบที่ออกไว้” คลิ้นท์ นากาตะ (Clint Nagata) ผู้ก่อตั้งกลุ่มบลิงค์ดีไซน์ กล่าว  สิ่งอำนวยความสะดวกพิเศษของโรงแรมคือ ตู้ชาแบบโบราณ ที่มีอยู่ในทุกห้องพัก เพื่อให้แขกได้ดื่มด่ำกับวัฒนธรรมดื่มชาที่รู้จักกันดีของประเทศญี่ปุ่น

5. ร้าน บลูบอทเทิ้ลคอฟฟี่ เกียวโต (Blue Bottle Coffee Kyoto Cafe)

Tatler Asia
Above (ภาพ: ทาคูมิ โอตะ)

ร้านนี้ได้รับการออกแบบโดย สกีมาต้า อคิเทคส์ (Schemata Architects) เปิดดำเนินการเมื่อปี 2561 ตั้งอยู่ใกล้วัดนันเซ็นจิ (Nanzenji Temple) เป็นร้านกาแฟสาขาจากคาลิฟอร์เนียรายแรกที่บุกเกียวโต ตัวร้านอยู่บริเวณเรือนไม้เก่า 100 ปี ที่ประกอบด้วยเรือน 2 หลังคั่นด้วยลานบ้าน เรือนด้านหลังเป็นสำนักงาน  ขณะนั่งจิบเอสเพสโซ (กาแฟเย็นสไตล์นิวออลีนส์) ลูกค้าสามารถชื่นชมความผสมผสานของสถาปัตยกรรมเก่าและใหม่ของร้าน

arrow left arrow left
arrow right arrow right
Photo 1 of 3 เอาท์เล็ทแห่งนี้ตั้งอยู่ในบริเวณมาชิยะอายุ 100 ปี (ภาพ: ทาคุมิ โอตะ)
Photo 2 of 3 อีกมุมหนึ่งของการตกแต่งภายในร้าน Blue Bottle Coffee Kyoto Cafe (ภาพ: Takumi Ota)
Photo 3 of 3 ทางเข้าร้าน Blue Bottle Coffee Kyoto Cafe (ภาพ: ทาคุมิ โอตะ)

พื้นบ้านที่ยกสูงตามแบบดั้งเดิมนั้น ถูกปรับให้ต่ำลงในระดับเดียวกับพื้นด้านนอกเพื่อให้เดินสะดวก  และทำให้พื้นหินกรวดด้านนอกเข้ากับพื้นหินขัดด้านใน ซึ่งมีการยกพื้นบางส่วนเป็นเคาน์เตอร์และม้านั่ง  สถาปัตยกรรมที่มีการอนุรักษ์ไว้ คือโครงสร้างหลังคาแบบเปิด ผนังดิน เสาและคานไม้  นับเป็นสถานที่มีเสน่ห์น่านั่งรับประทานขนมอบตามฤดูกาล เช่น คุกกี้มิ้นต์ชาเขียว เป็นต้น


This story was originally written in English by Luo Jingmei.

ต้นฉบับเขียนเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2566 โดย Luo Jingmei โปรดคลิกที่นี่เพื่อดูเวอร์ชันภาษาอังกฤษ


อ่านเพิ่มเติม:

ค้นพบ 10 ร้าน Apple Store ที่สวยที่สุดในเอเชีย

เคล็ดลับวิธีแต่งบ้านตามราศีเกิด

Japan by Design: 5 สุดยอดโรงแรมสไตล์เรียวกังที่น่าไปเยือน

Topics